(3)Applying to ISE

(3)Applying to ISE

      มาถึงขั้นตอนการสมัครแล้ว หลังจากสอบเก็บทุกตัวที่จำเป็นต้องใช้แล้ว

       สำหรับ ISE จะยืนได้ 2 รอบ คือรอบแรก รอบพอร์ท หรือรอบแฟ้มสะสมผลงาน กับรอบสอง รอบโควตา 
      เรายื่นรอบแรก (Early admission หรือ รอบ portfolio)  ปี 2019 
      25 Nov - 24 Dec       ISE เปิดให้ยื่นคะแนน 
      27 Dec                    ประกาศผู้มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์ 
      3 Jan                      วันสัมภาษณ์
      10 Jan                    ประกาศผู้มีสิทธิ์เลือกภาค 
      11-12 Jan                เลือกภาคในเว็บ 
      15 Jan                     ยืนยันภาคที่คณะ (รู้ว่าจะได้อยู่ภาคไหน)
      30-31 Jan                ยืนยันสิทธิ์ใน mytcas (ถ้าไม่ยืนยัน เขาจะถือว่าสละสิทธิ์นะ)
      7 Feb                      Program fee payment

ส่วนรายละเอียดแต่ละขั้นตอนตามนี้เลย
  • สมัคร mytcas ไว้กันลืม เพราะถ้าได้รอบแรกต้องยืนยันสิทธ์ิในเว็บด้วย จิ้ม
  • สมัครในเว็บ ISE เพื่อจะได้ application number ถ้าสมัครเร็ว ตอนวันสัมภาษณ์จะได้สัมก่อน
  • ภายในวันที่ 25 Nov - 24 Dec ต้องไปยื่นคะแนนที่คณะ ต้องยื่นใบจริง ซึ่งต้องให้ collegeboard ส่งมาที่ ise โดยตรง ถ้าใบจริงถึงที่คณะไม่ทันก็ต้องปริ้นใบคะแนนในเว็บไปก่อน และเขียน username and password ของ account collegeboard ให้เขาด้วย ส่วน IELTS ถ่ายสำเนาไปยื่น

     Sending the score (CollegeBoard)

     สำหรับคนที่สอบ SAT and SAT subject ต้องเข้าไปในเว็บ collegeboard แล้วกด send score ไปที่ ISE ใส่ code : 6806 ถ้าเรากด send score when available คือส่งช่วงหลังสอบเสร็จภายใน 9 วัน จะส่งฟรี แต่ถ้าหลังจากนั้นจะเสียตัง $12 ต่อคณะที่จะส่ง

  • 3 Jan   interview

     Interview

     วันสัม เป็นการสัมช่วงเช้าทั้งหมด ไม่ให้นำมือถือเข้าห้อง สัมในห้องประชุมข้างหน้าห้องมีเวทีและมีโต๊ะสัมเบอร์ต่าง ๆ ก็คือสัมข้างหน้าเราเลย แต่แอบฟังไม่ค่อยได้เสียงมันตีกันไปหมด มีทั้งหมด 15 โต๊ะ มีกรรมการ 2 ท่านต่อโต๊ะ บางท่านเป็นต่างชาติ บางท่านเป็นคนไทย สัมเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดนะ และควรทำพอร์ต เราว่ามันช่วยเรามาก ๆ 

     ตอนเราสัม เราเดินไปนั่งที่โต๊ะและว่างพอร์ตบนโต๊ะเลยให้เขาเห็น และเขาก็ให้เราเริ่มแนะนำตัว ชื่อ เรียนที่ไหน และส่วนมากคำตอบที่เราตอบจะเป็นการเปิดประเด็นให้เขาลองถามเราได้ ถ้าเราบอกเขาว่าอยากเข้า aero ถ้าโชคดีคนสัมเราเขาไม่ใช่ครูภาคนี้ เขาก็ถามไม่ลึกมาก แต่ถ้าโชคดีขึ้นไปอีก คือเจอครูภาคนี้พอดี เขาก็จะถามจี้เราไป ก่อนสัมควรศึกษาว่าภาคที่จะเข้าเรียนไรบ้าง ชอบวิชาไหนในคณะ (อ่านตรง course syllabus ในหน้าเว็บได้เลย) ของเราส่วนมากเขาจะถามเกี่ยวกับเรา เช่น เคยไปแลกเปลี่ยนมาหรอ ทำอะไรมาบ้าง ได้อะไรจากการไปแลกเปลี่ยน ต่อมาเขาถามเรื่องกิจกรรม (เราบอกเขาไปว่าเป็น active person ชอบทำกิจกรรม) ทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง มีการแบ่งเวลายังไง ต่อมาเขาก็หยิบพอร์ตมาดู เปิดผ่าน ๆ แบบกวาดตามอง ส่วนมากที่เขามองจะเป็นรูป ดังนั้นตัวอักษรไม่ต้องเยอะ ถามนิดหน่อยในพอร์ต ที่สำคัญมีสติให้มาก ๆ ตอบดี ๆ positive thinking เข้าไว้ ใช้มือประกอบท่าทางบ้าง แต่ไม่ต้องโอเวอร์เกินไป

  • 10 Jan เป็นการประกาศว่าเราจะติดหรือไม่ติด และอันดับของเราด้วย รอบแรกรับ 165 คน
  • 11-12 Jan เลือกภาคในเว็บ ไม่ต้องไปที่คณะ เขาจะให้ว่าอันดับ1 เลือกภาคอะไร อันดับ 2 3 4 5 ไล่มา อันดับ 1 ก็ภาคที่อยากเข้ามากที่สุด 

Program Selection

      การเลือกภาคจะเป็นการเลือกโดยเรียนจากอันดับ Ranking ถ้าคนที่ได้Rank สูงมีโอกาสเลือกภาคได้มากกว่า Rank ต่ำ โดยเราจะต้องไปเลือกภาคที่คณะ เขาจะมีจอให้รู้ว่าตอนนี้ภาคไหนเหลือที่นั่งอีกเท่าไหร่ ให้ลุ้นกันแบบสด ๆ เลย สมมติคนแรกเลือก ai ช่อง ai จาก 30 จะลดเหลือ 29
           ปีเรา 2019 รอบแรก 
                  ai หมดคนที่ 61         
                  ice หมดคนที่ 92       
                  aero หมดคนที่ 124        
                  adme หมดคนที่ 155
  • 15 Jan ตอนเย็น ๆ จะประกาศ waiting list   
  • 16 Jan waiting list เลือกภาค ซึ่งตอนนั้นเหลือแค่ nano
  • 30-31 Jan ยืนยันสิทธิ์ใน mytcas ไม่ยืนยัน = สละสิทธิ์นะ อย่าลืมกัน
  • Program fee payment ต้องจ่ายวันนั้น ถ้าไม่จ่าย = สละสิทธิ์ ให้ผู้ปกครองไปแทนได้โดยถ่ายเอกสารบัตรประชาชนของเราแล้วเซ็นกำกับ จ่ายโดย cashier cheque 
ถึงขั้นนี้ปุ๊บ ก็ยินดีด้วยนะคะ ตอนนี้น้องมีที่เรียนแน่ ๆ แล้วค่ะ ^^


แนบรูปสถิติรอบแรก ปี 2563
credit: learning cafe ศูนย์รวมข้อมูลการสอบอินเตอร์





Acknowledgement

     ขอขอบคุณคุณครูทุกท่าน เพื่อน ๆ ทุกคน และขอบคุณผู้สนับสนุนหลัก (คุณพ่อคุณแม่)


Extra

     สุดท้ายนี้หากเกิดผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี่ ที่เราเขียนมาบางหัวข้อมีการใช้ความเห็นส่วนตัวของเราเอง ดังนั้นโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
     และพี่ขออวยพรให้น้อง ๆ สมปรารถนา อยากติดคณะไหน ก็ขอให้ได้คณะนั้น พยายามให้เต็มที่แล้วจะไม่เสียใจทีหลัง

Thank you



  •      และฝากร้านขายหนังสือ SAT ของเราด้วยค่า ig : bookbookbook.s

CU@CU   ^^




Before






ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

(1)ฮาวทูติด ISE

(1)ฮาวทูติด ISE สวัสดีค่า เราจะมาเล่าประสบการณ์ + แนะนำเพื่อเข้าวิศวะอินเตอร์ จุฬา หรือ ISE แบบละเอียดค่ะ นี่เป็นกระทู้เแรกที่เขียน หากผิดพลาดประการใดขออภัยค่ะ เราได้เขียนและแบ่งหัวข้อเป็นเรื่อง ๆ เรียงตามเลขหน้าเลย (1)Introduction +  Study plan (2)All about the test +  Tips for studying (3)Applying to ISE (Early admission) Introduction     เริ่มกันที่ requirement กันก่อนเลยค่ะ จะต้องใช้คะแนนแบบไหน พาร์ทอะไร      ISE หรือ วิศวะอินเตอร์ จุฬา นั้นใช้คะแนนหลัก ๆ 3วิชา วิทย์ นับเป็น 40% ของคะแนนทั้งหมด คณิต 30% อังกฤษ 20%              และใช้อีก 2 ตัวคือ คะแนนสัมภาษณ์ 5% เกรด 5% ไปอ่านของ official ได้ ที่นี่เลย      ของเราเราใช้คะแนน SAT subject วิชา Physics Chemistry Math lv.2 และ SAT (ที่แบ่งเป็นพาร์ท verbal กับ math) แต่ใช้แค่คะแนน math นะ verbal เข้าไปนั่นอ่านเล่นๆได้เลย และตัวสุดท้าย IELTS Study Plan      เราเริ่มช่วงม.5 ขึ้นม.6 นะ อันนี้เป็นแนวทางที่เราใช้ ด้วยความที่รอบสอบ SAT ในไทยมีหลายรอบ เทียบกับภาคไทยแล้วเรามีโอกาสเตรียมได้หลายรอบ ถ้
อ่านเพิ่มเติม

(2)All about the test

รูปภาพ
(2)All about the test      หลังจากอ่านรอบสอบแล้วมาอ่านวิธีการเตรียมตัวกันต่อเลยค่ะ เราจะแบ่งออกเป็นแต่ละวิชา ENGLISH                                                                                                       IELTS      สำหรับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะสอบเป็น IELTS academic นะ ถ้าเป็นอีกแบบคือ IELTS general training สอบเพื่อย้ายไปอยู่ที่นู่น      หลัก ๆ แบ่งออกเป็น 4 พาร์ท Listening Reading Writing Speaking        - Listening  ฝึกของ cambridge เลย เล่ม10-14 หรือทำ official guide เล่มขาวก้ได้ ฟัง ted talk, bbc daily English, Podcasts ทุกวัน พูดกับเพื่อนภาษาอังกฤษ ฟังเพลงอังกฤษ หาคำศัพท์ใหม่ๆทุกวัน หาจุดผิดในแต่ละครั้งที่ทำ แล้วหาสาเหตุ ถ้าผิด s es ก้ฝึกฟัง podcasts บ่อยๆ ลองบอกว่าคำนี้ลงท้ายด้วย s es มั้ย และดูบริบท ในช่องต้องเปน N or Adj หรืออื่นๆ จะช่วยหาคำที่มันโดดจากประโยคพื้นๆได้       - Reading พาร์ทเติมคำ เราว่าง่ายมาก ส่วนใหญ่คำที่จะเติมนั้น จะ specific ไม่ค่อยซ้ำกับบรรทัดอื่น และคำที่เราเติมจะต้องมาจากในบทความโดยตรง ถ้าเขามี s เราก้ต้องเอา s มาด้วย พ
อ่านเพิ่มเติม